การเล่านิทาน เป็นกิจกรรมที่พ่อแม่ทำร่วมกับลูกๆ ได้ง่ายที่บ้าน เพื่อช่วยเสริมสร้างความสัมพันธ์ในครอบครัว และยังช่วยเสริมสร้างพัฒนาการของเด็กในหลายด้าน โดยเฉพาะอย่างยิ่งพัฒนาการด้านภาษา ด้านการพูดและการฟัง สร้างความสุข ความสนุกสนาน และยังเป็นตัวกระตุ้นจินตนาการของเด็กๆโดยเฉพาะจินตนาการและความคิดสร้างสรรค์

การเล่านิทาน ช่วยส่งเสริมพัฒนาการให้เด็กหลายด้าน

พ่อแม่มักจะใช้เวลาช่วงก่อนนอน เล่านิทานให้ลูกฟัง ซึ่งสามารถทำได้ตั้งแต่ตั้งครรภ์จนถึงอายุ 10 ขวบเลยทีเดียว นิทานนอกจากจะช่วยส่งเสริมพัฒนาการในด้านต่างๆ ของลูกแล้ว การเล่านิทานก่อนนอนยังเป็นการสร้างความสัมพันธ์ที่ดี สร้างความอบอุ่น ความผูกพันของคนในครอบครัว สร้างความสุข ความสนุกสนาน และยังเป็นตัวกระตุ้นจินตนาการของเด็กๆ เชื่อมโยงไปสู่การพัฒนาสมองและสติปัญญาที่ดีได้อีกด้วย

นิทานเป็นเรื่องเล่าที่มีวัตถุประสงค์หลัก คือ การอบรมด้วยบรรยากาศที่มีความสุขและสนุกสนาน ทำให้เด็กไม่รู้สึกเหมือนถูกสอนและเด็กจะสัมผัสได้ว่าเป็นที่รักของพ่อแม่ เด็กจะชอบฟังนิทานเพราะนิทานมีเรื่องราวที่สร้างเสริมจินตนาการตอบสนองความต้องการของความรัก ต้องการให้คนอื่นสนใจ ประโยชน์ของการเล่านิทานจะเป็นการสร้างคุณค่าที่ยิ่งใหญ่ต่อเด็ก

คุณค่าที่เด็กจะได้จากการฟังนิทาน 

  1. เสริมปัญญาเด็ก นิทานจะช่วยให้เด็กฉลาดทั้งทางปัญญา (IQ) และฉลาดทางอารมณ์ (EQ)
  2. ทำให้เด็กช่างคิด ช่างถาม ช่างสังเกต
  3. เรียนรู้ภาษา มีทัศนคติที่ดีต่อการเรียนภาษา
  4. ฝึกจับประเด็น การเล่าซ้ำจะทำให้เด็กจำได้ทั้งเรื่อง มองภาพรวมเข้าใจเรื่องได้เร็ว
  5. ฝึกสมาธิ การตั้งใจฟังนิทาน เป็นการฝึกสมาธิให้เด็ก
  6. จินตนาการ การฟังนิทานเป็นการเสริมสร้างจินตนาการ
  7. คุณธรรม ได้รับการปลูกฝังคุณธรรมตั้งแต่เด็ก จากเนื้อหาในนิทาน
  8. รักการอ่าน การอ่านนิทานให้ฟังบ่อยๆ ช่วยปลูกฝังให้เด็กมีนิสัยรักการอ่าน
  9. ความสุข บรรยากาศการเล่านิทานเป็นความสุขในครอบครัว เป็นกิจกรรมที่พ่อแม่สามารถเตรียมความพร้อมให้แก่เด็ก ก่อนเปิดภาคเรียน  ซึ่งเป็นวิธีการที่ง่ายและสามารถทำได้ทุกวันโดยเฉพาะก่อนนอน

10 เหตุผลที่ควรเล่านิทานให้เด็กฟัง

เพื่อส่งเสริมศักยภาพทุกด้านของลูก คุณพ่อคุณแม่ควรให้ความสนใจวิธีการส่งเสริมพัฒนาการด้านต่างๆ เพราะในช่วงขวบปีแรกเป็นช่วงเวลาเด็กจะสามารถพัฒนาทักษะได้ดีที่สุด และวิธีง่ายๆ ที่สามารถทำได้ทุกวันก็คือการอ่านนิทานให้เจ้าตัวน้อยฟัง มาดูเหตุผลดีๆ ที่ควรเล่านิทานให้ลูกฟัง ดังนี้

1. นิทานสร้างความสัมพันธ์ในครอบครัว

ช่วงเวลาดีๆ ที่พ่อจะเล่านิทานก่อนนอนให้ลูกฟังเวลาสบายๆ แห่งความรัก ความอบอุ่นที่จะสร้างความผูกพันและนำไปสู่ความเชื่อมั่นที่จะเสริมสร้าง ปัญญาของเด็กๆได้เป็นอย่างดี

2. นิทานช่วยปลูกฝังให้เด็กเป็นคนช่างคิด ช่างถามและช่างสังเกต

เป็นโอกาสที่จะทำให้เด็กมีความฉลาด มั่นใจ และ แสดงความคิดเห็นถูกจังหวะ หรือที่เรียกว่ามีความฉลาดทั้งทางปัญญา (IQ) และฉลาดทางอารมณ์ (EQ)

3. นิทานช่วยให้เด็กเรียนรู้ภาษา

การฟังนิทานจะทำให้เด็กได้รู้จักรูปประโยค การใช้ภาษาความหมายของคำ และเกิดทัศนคติที่ดีต่อการเรียนในอนาคต

4. นิทานทำให้เด็กจับประเด็นและวิเคราะห์ได้ดี

การฟังซ้ำๆ เด็กจะจำเรื่องราวได้ทั้งหมดและเด็กจะรู้จักมองสิ่งที่อยู่รอบตัว เข้าใจเรื่องได้ง่าย ทำให้เกิดการเรียนรู้ที่จะจับประเด็นรวมทั้งการย่อความ

5. นิทานช่วยกระตุ้นจินตนาการของเด็ก

น้ำเสียงที่เล่าเรื่องจะกระตุ้นให้เด็กสร้างจินตนาการเป็นภาพ การเล่านิทานบ่อยๆ จึงเป็นการสร้างจินตนาการไปพร้อมๆ กับการรับรู้เรื่องใหม่ๆ ที่ยังไม่เคยรู้มาก่อน

6. นิทานช่วยบ่มเพาะคุณธรรมแก่เด็ก

เพราะนิทานส่วนใหญ่สอดแทรกคุณธรรม ทักษะชีวิตหรือข้อคิดต่างๆ ที่ทำให้เด็กได้ตระหนักถึงคุณงามความดีและนำไป ปรับใช้ในชีวิตเมื่อโตขึ้น

7. นิทานช่วยสร้างสมาธิ

ช่วงเวลาของการเล่านิทาน เด็กมักจะฟังนิทานอย่างตั้งใจหากเลือกเล่านิทานที่เหมาะกับช่วงวัยจะทำให้ เด็กเข้าใจ อยากรู้และติดตามต่อไปว่าจะเกิดอะไรขึ้นถือเป็นการสร้างสมาธิให้กับเด็กได้ เป็นอย่างดี

8. นิทานช่วยสร้างเด็กให้มีความรู้

และความฉลาดทางอารมณ์ หากเด็กชอบฟังนิทานเด็กก็จะปรับตัวและสร้างความสัมพันธ์กับผู้ใหญ่ เพื่อจะได้ฟังนิทานจากผู้ใหญ่ ซึ่งเป็นรากฐานสำคัญในการพัฒนาและปรับตัวเพื่อให้อยู่ในสังคมอย่างมีความสุ-

9. นิทายช่วยสร้างนิสัยรักการอ่าน

การเล่าหรือการอ่านนิทานให้เด็กฟังจะช่วยปลูกฝังนิสัยรักการอ่านเพราะการ อ่านจะทำให้มีสมาธิ และอ่านหนังสือได้รวดเร็ว

10. นิทานสร้างความรู้สึกไม่ได้กำลังถูกสอนให้กับเด็ก

เพราะเนื้อหาของนิทานจะมีขั้นตอนในการสร้างความเข้าใจรวมทั้งวิธีการแก้ปัญหาและบทสรุปของเรื่องที่ ให้ข้อคิดต่อเรื่องนั้นๆ

การเล่านิทาน

ประโยชน์ของการเล่านิทาน

เราอาจได้ยินประโยชน์ของการเล่านิทานในภาพรวมกันมาบ้าง แต่อาจไม่รู้ถึงรายละเอียดของประโยชน์เหล่านั้น มาดูกันว่าการเล่าหรืออ่านนิทานให้เด็กๆ ฟังส่งผลดีอย่างไรบ้าง

1. เสริมสร้างความคิดสร้างสรรค์และจินตนาการ

  • เทคโนโลยีและนวัตกรรมจำนวนไม่น้อยที่มีพื้นฐานมาจากความคิดนอกกรอบ สังคมในปัจจุบันจึงให้คุณค่ากับจินตนาการและความคิดสร้างสรรค์มากขึ้น เด็กกับจินตนาการและความคิดสร้างสรรค์มักเป็นของคู่กัน ดังนั้นในโลกยุคใหม่ การเสริมสร้างจินตนาการและความคิดสร้างสรรค์ตั้งแต่ยังเล็กเป็นสิ่งที่พ่อแม่ควรให้ความสำคัญ
  • การศึกษาชิ้นหนึ่งที่ศึกษาความสัมพันธ์ของการเล่านิทานในรูปแบบดิจิทัลและพัฒนาการของเด็กปฐมวัย  พบว่า การฟังนิทานจะนำเด็กๆ ไปสู่ภาวะอารมณ์ในทางบวก เช่น ความสบายใจ ความคิดที่ปลอดโปร่ง ความมั่นใจ ซึ่งกระตุ้นให้เกิดความคิดสร้างสรรค์ได้
  • การศึกษาชิ้นเดียวกันนี้ชี้ว่า เด็กที่มีความสนใจในเรื่องใดเรื่องหนึ่งสามารถนำเรื่องราวที่เขาได้ฟังแสดงออกมาทางรูปวาดและนำเรื่องราวเหล่านั้นมาดัดแปลงและต่อยอดเป็นเรื่องราวของเขาเอง อีกทั้งเด็กยังอาจเกิดทักษะในการเล่าเรื่องอย่างมีโครงสร้างที่มีจุดเริ่มต้น จุดกึ่งกลาง และจุดจบของเรื่อง
  • ดังนั้นการเล่านิทานจึงเป็นวิธีที่ช่วยปูพื้นฐานด้านความคิดสร้างสรรค์และจินตนาการที่ช่วยให้เด็กมีความคิดนอกกรอบ ซึ่งอาจเป็นประโยชน์ต่อไปในอนาคต

2. เพิ่มขีดจำกัดในการเรียนรู้

  • การอ่านและการฟังนิทานเป็นหนึ่งในเครื่องมือการเรียนรู้ที่สำคัญของเด็กๆ ซึ่งเรื่องราวจากนิทานจะกระตุ้นให้เกิดการเรียนรู้ทางภาษา ไม่ว่าจะเป็นคำศัพท์ ไวยากรณ์ การออกเสียง วิธีการสื่อสารและการฝึกพูด อีกทั้งการเล่านิทานยังเป็นวิธีที่ช่วยให้เด็กเริ่มรู้จักการทำความเข้าใจและการรับข้อมูลต่างๆ
  • ผู้เชี่ยวชาญด้านการศึกษาในเด็กได้ให้ข้อมูลว่า เมื่อเด็กเริ่มเข้าไปอยู่ในชั้นเรียนอาจต้องพบเจอกับเหตุการณ์ที่ทำให้เกิดความเครียด ไม่ว่าจะจากเพื่อนร่วมชั้นหรือสภาพแวดล้อมที่เปลี่ยนไป ซึ่งแน่นอนว่าความเครียดส่งผลต่อประสิทธิภาพในการเรียนรู้
  • ผู้เชี่ยวชาญจึงแนะวิธีง่ายๆ ในการแก้ไขปัญหานี้ เพียงคุณพ่อหรือคุณแม่โอบกอดลูกไว้ในอ้อมแขนพร้อมกับเล่านิทานให้ฟัง ก็จะช่วยลดระดับของฮอร์โมนที่ทำให้เกิดความเครียดซึ่งส่งผลต่อการเรียนรู้ได้
  • ด้วยเหตุนี้นิทานจึงไม่ได้เป็นตัวช่วยในการเสริมทักษะเพียงอย่างเดียว แต่ยังช่วยลดปัจจัยที่ส่งผลเสียต่อการเรียนรู้ได้ด้วย

3. พัฒนาอารมณ์และทักษะการอยู่ร่วมกับผู้อื่น

  • การเตรียมความพร้อมให้กับลูกน้อยสำหรับการเรียนรู้ที่จะอยู่และปรับตัวในสังคมใหม่ที่มีคนอื่นๆ นอกจากคนในครอบครัวเป็นสิ่งที่พ่อแม่ควรให้เรียนรู้ตั้งแต่ก่อนเข้าเรียน การเล่านิทานเป็นเครื่องมือที่ไม่เพียงช่วยส่งเสริมทักษะทางความคิด การศึกษา แต่ยังพัฒนาทักษะทางด้านสังคมด้วย
  • การเล่านิทานช่วยสอนทักษะทางการสื่อสารให้กับเด็กได้หลากหลายรูปแบบ ทั้งคำพูด ท่าทาง และการแสดงออกทางอารมณ์ ซึ่งอาจช่วยให้เกิดการตอบสนองเมื่อต้องพูดคุย ทำกิจกรรม หรือมีส่วนร่วมกับเพื่อนใหม่ในชั้นเรียน
  • จินตนาการจากการฟังนิทานอาจช่วยขยายขอบเขตทางความคิดของเด็กจึงช่วยให้เขาเกิดความเข้าใจในตนเองและคนอื่นมากขึ้น ด้วยทักษะทางภาษาและการสื่อสารนี้จึงทำให้เด็กสามารถพูดคุยกับเพื่อนใหม่หรือครู และปรับตัวเข้ากับสภาพแวดล้อมหรือสังคมใหม่ๆ ได้
  • งานศึกษาชิ้นหนึ่งพบว่าการเล่านิทานให้เด็กที่ต้องเข้ารับการผ่าตัดฟังอาจช่วยลดความเครียดและความผิดปกติทางพฤติกรรม (Behavioral Disorders) ในช่วงหลังจากการผ่าตัดได้
  • นอกจากนี้การเล่านิทานก่อนนอนจะช่วยปรับอารมณ์ของเด็กให้นิ่งและผ่อนคลายมากขึ้น ซึ่งช่วยให้ลูกน้อยนอนหลับได้ง่ายขึ้น

4. สร้างความสัมพันธ์ที่ดี

  • การเล่านิทานอาจช่วยเพิ่มความใกล้ชิดระหว่างคุณพ่อ คุณแม่ และลูกน้อย เพราะเป็นกิจกรรมที่ช่วยให้ครอบครัวได้ใช้เวลาร่วมกัน แม้เจ้าตัวน้อยจะเริ่มก้าวเข้าสู่วัยเด็กเล็ก แต่การเล่านิทานยังคงเป็นช่องทางที่ช่วยให้คุณพ่อคุณแม่แลกเปลี่ยนความคิดและประสบการณ์ร่วมกับลูกได้
  • นอกจากนี้การเล่านิทานจะช่วยให้เด็กจดจำเสียงของคุณพ่อคุณแม่ได้ไวขึ้น โดยอาจเริ่มเล่านิทานให้เขาฟังตั้งแต่อยู่ในครรภ์

วิธีเล่านิทานเพื่อเสริมพัฒนาการลูกน้อย

ต่อไปนี้คือเคล็ดลับการเล่านิทานที่อาจช่วยเพิ่มหรือกระตุ้นให้เด็กได้ประโยชน์จากการฟังนิทานมากขึ้น

  • เริ่มอ่านนิทานให้เด็กฟังตั้งแต่ตั้งท้องหรือแรกเกิด แม้ว่าทารกจะฟังไม่รู้เรื่องและไม่เข้าใจความหมาย แต่มีข้อมูลชี้ว่าการเล่านิทานตั้งแต่ทารกอยู่ในท้องอาจเพิ่มประสิทธิภาพพัฒนาการทางภาษาได้มากกว่าการเริ่มเล่านิทานเมื่อเขาโตขึ้น
  • เลือกหนังสือให้เหมาะกับช่วงวัย เด็กแต่ละช่วงวัยมีพัฒนาการที่แตกต่างกัน การเลือกเนื้อหาหรือรูปแบบให้เหมาะสมกับช่วงวัยจึงช่วยกระตุ้นพัฒนาการตามช่วงวัยได้มากกว่า
  • อ่านซ้ำ แม้ว่าเด็กจะเรียนรู้ได้ไว แต่การอ่านนิทานเรื่องเดิมซ้ำๆ จะช่วยให้เขาจดจำคำหรือประโยคได้แม่นยำขึ้น
  • ใช้โทนเสียงหลากหลาย ไม่ว่าจะเป็นเนื้อหา คำพูด บทสนทนา ไปจนถึงการเลียนเสียงสัตว์ตามเนื้อหาในนิทานจะช่วยกระตุ้นความเข้าใจ การเรียนรู้ และจินตนาการของเด็กได้
  • เสริมด้วยตัวช่วย เช่น หนังสือนิทานที่มีภาพประกอบและฉากป๊อปอัป ตุ๊กตานิ้ว ถุงมือสำหรับเล่านิทาน เพลง เสียงดนตรี หรือกิจกรรมควบคู่ไปกับการเล่านิทาน
  • ถามคำถาม เพื่อกระตุ้นกระบวนการคิด การจดจำ การสื่อสาร และยังเป็นการแลกเปลี่ยนความคิดระหว่างคุณพ่อคุณแม่และลูกน้อยด้วย

 

การเล่านิทานให้ลูกฟังเป็นวิธีที่ง่าย สะดวก และมีหลักฐานทางวิทยาศาสตร์รองรับถึงประโยชน์ สร้างความสัมพันธ์ที่ดีในครอบครัว ซึ่งจะสร้างความทรงจำที่ดีให้เกิดขึ้นกับเด็ก เพราะเรื่องราวในนิทานเปรียบเสมือนสถานการณ์สมมุติ ช่วยให้เด็กได้ฝึกคิดตาม เป็นแบบฝึกหัดอีกรูปแบบหนึ่งที่สนุกและเข้าใจง่าย เด็กที่ฟังนิทานเป็นประจำจะมีทักษะการเรียนรู้ทางภาษา มีทักษะการฟังและสรุปความ และเสริมความสามารถในการแก้ปัญหาเฉพาะหน้า มีสมาธิจดจ่อกับการฟัง ซึ่งเป็นทักษะที่สำคัญมากในการเรียน ซึ่งช่วยพัฒนาทักษะให้เขาเติบโตได้อย่างมีความรู้ มีจินตนาการ และเป็นเด็กที่ร่าเริงได้ สุดท้ายนี้อย่าลืมหมั่นเล่านิทานให้เขาฟังอยู่เป็นประจำเพื่อให้ลูกน้อยได้ประโยชน์จากการเล่านิทานอย่างเต็มที่

 

เรื่องอื่นๆ ที่น่าสนใจเกี่ยวกับเด็ก

ที่มาของบทความ

 

ติดตามอ่านเรื่องเกี่ยวกับเด็กได้ที่ legacytalentagency.com
สนับสนุนโดย  ufabet369